Review x Yunnan : จากคุนหมิงถึงแชงกรี-ล่า [DAY 3 สระมังกรดำ ]

วันที่3 ของการเดินทาง ภารกิจวันนี้ ครึ่งวันแรกอยู่ที่การเดินไปที่สวนยู้วฉวน เป็นสวนสาธารณะที่เชื่อมกับตัวเมืองเก่าลี่เจียง ที่สวนนี้มีสระน้ำชื่อว่า สระมังกรดำ ถือว่าเป็น 1 ใน จุดถ่ายรูปท็อปวิวของลี่เจียงที่สวยที่สุดอีกมุมหนึ่งเพราะเราจะเห็นสะพานข้ามสระ เก๋งจีน และมีฉากหลังเป็นภูเขาหิมะมังกรหยก (ถ้าไปในวันอากาศดี)

ส่วนครึ่งบ่ายจะต้องออกตามหาทัวร์ที่จะพาเราขึ้นไปบนภูเขาหิมะมังกรหยกในวันพรุ่งนี้ ที่ใช้คำว่า ตามหา ก็เพราะว่า ทัวร์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยอยากจะรับคนต่างชาติ เพราะเค้ากลัวหลายเรื่อง เช่น กลัวป่วยช็อคโรคแพ้ที่สูง กลัวพลัดหลงบ้าง ที่สำคัญคือการติดต่อสื่อสารนัดแนะในการเดินทาง และปิดท้ายที่ชมวิวมูงสูงของลี่เจียงที่ เนินเขาสิงโต หรือที่เรียกกันว่า ว่านกูโหลว

เริ่มต้นออกเดินทางไป สระมังกรดำ : ด้วยความที่อ่านรีวิวมาแล้วว่าที่พักสามารถเดินลัดไปที่สระมังกรดำได้ ใช้เวลาเดินจิ๊บๆ แค่ 40 นาที เราเลยถามลุงเจ้าของโฮสเทลว่าเดินไปยังไง??? ลุงแกก็เดินมาหน้าที่พักแล้วชี้ไปศาลาบนเขาที่เห็นไกลๆนู่นบอกว่าเดินผ่านศาลานั้นไปก็ถึงแล้ว…โธ่ลุงพูดเหมือนง่าย แค่เดินธรรมดาก็หอบอยู่แล้ว เราเลยลองเปิด Google Map ดูแล้วก็พบว่ามีทางเข้าด้านหน้าที่เดินแล้วใช้ระยะเวลาพอกัน จึงตัดสินใจว่าเดินไปเข้าด้านหน้าจะดีกว่า เพราะติดถนนไม่ต้องไปเสี่ยงเผื่อตายบนเขาจะทำยังไง?? และด้วยความประหยัดไม่แท็กซี่ ไม่รถเมล์ใดๆทั้งสิ้น เดินเอา ถือซะว่าชมเมือง


ใช้เวลาเดินเกือบ 40 นาที ไม่เมื่อยเลยจริงๆ ก็ถึงประตูทางเข้าสวนสระมังกรดำ ที่นี่ไม่เสียค่าเข้า แต่ต้องแสดงตั๋วค่าบำรุงเมืองเก่าลี่เจียงให้ดู ข้างในก็เป็นสวนร่มรื่นด้วยต้นไม้ ต้นหลิว ล้อมรอบด้วยสระน้ำ ข้างหลังเป็นภูเขาหิมะมังกรหยกตระหง่านอยู่ เราเดินรอบๆสวนเรื่อยๆ เหนื่อยก็นั่งพัก อยากถ่ายรูปตรงไหนก็ไปต่อ คนจีนมาเดินเล่นกันเยอะ ความยากของการถ่ายรูปที่นี่คือต้องรอแสงและเมฆที่บดบังยอดเขาหิมะมังกรหยกให้หายไป เราขี้เกียจรอเลยเดินเล่นแล้วกะว่ากลับมาจะได้ฉากหลังสวยๆ บ้าง


เดินไปครึ่งวัน ก็ถึงเวลากลับไปเมืองเก่าลี่เจียง เพื่อตามหาทัวร์สำหรับวันพรุ่งนี้ ทางเลือกในการขึ้นภูเขาหิมะมังกรหยก ที่นิยมกันมีสองทาง คือ 1.เหมารถแท็กซี่ขึ้นไปราคาทั้งวันก็ 200 หยวน หรือประมาณ 1000 บาท แต่ราคานี้จะไม่รวมตั๋วค่าเข้า ค่าธรรมเนียม ค่ากระเช้า นู่นนี่เยอะแยะไปหมด 2. ซื้อทัวร์ขึ้นไป ซึ่งก็จะมีหลายราคา ถ้า 600 หยวน หรือ 3000 บาท ก็จะได้ เสื้อกันหนาว+ข้าวกลางวัน+กระป๋องอ็อกซิเจน และเที่ยวตามจุดสำคัญครบถ้วน แต่ถ้าอยากดูอิมเพรสชั่น ลี่เจียง ซึ่งเป็นโชว์ที่จางอี้โหมว ผู้กำกับการแสดงของโชว์โอลิมปิกที่ปักกิ่งออกแบบก็ต้องเพิ่มอีก 200 หยวน แม้จะราคาแพงไปหน่อยแต่เราก็ว่าคุ้มค่าแลกกับความสบาย ปัญหาอยู่ที่ ทัวร์ที่ไหนจะรับคนต่างชาติ…

เราเริ่มไปตามเอเจนซี่ที่มีกระจายอยู่ทุกซอยของเมืองเก่าลี่เจียง โดยเริ่มจากร้านที่อยู่ใกล้แลนมาร์คกังหันน้ำมากที่สุดเพราะคิดไปเองว่า ใกล้จุดสำคัญขนาดนี้น่าจะสื่อสารภาษาอังกฤษได้ เราเดินเข้าออกเป็น10ๆ ร้านก็ไม่มีร้านไหนรับลูกค้าต่างชาติ เพราะเราดันไปถามเค้าว่า can you speak english ? สรุปเลยต้องมานั่งทบทวนใหม่ว่า ทำยังไงดี คราวนี้เลยลองพิมพ์ Google แปลภาษาไทยเป็นจีนว่า “ฉันต้องการซื้อทัวร์ไปภูเขาหิมะมังกรหยก 1 ที่ ในวันพรุ่งนี้ คุณรับชาวต่างชาติมั้ย? “ จากนั้นจึงยื่นให้กับเอเจนซี่เจ้าหนึ่ง อาหมวยที่เป็นพนักงานก็ทำหน้า งง แต่นางฉลาดตรงที่นางโทรไปหาพี่ชายที่อยู่อีกสาขา ซึ่งพี่ชายพูดภาษาอังกฤษได้ก็รีบเดินมาหาเราภายใน 5 นาที แล้วปิดการขายอย่างรวดเร็วและน่าพอใจทั้งสองฝ่าย ก่อนกลับพี่ชายนางให้แอด We Chat เพื่อเป็นการติดต่อนัดแนะกัน โดยให้เรากลับถึงโฮสเทลแล้วให้แชร์โลเคชั่นเพื่อคนขับรถจะได้มารับในตอนเจ็ดโมงเช้า เป็นอันจบภารกิจการเดินตามหาทัวร์
ปิดท้ายการเดินทั้งวันด้วยการไต่ขึ้นเนินเพื่อไปชม Top view ของเมืองลี่เจียง นั่นคือทะเลเก๋งจีน ที่เมื่อขึ้นไปบนเขาเราจะเห็นหลังคาจีนโบราณนับพันๆหลังเรียงรายแน่นขนัด สถานที่ที่เราตั้งใจจะไปในตอนแรกคือ ว่านกูโหลว ที่เสียค่าเข้า 50 หยวน หรือประมาณ 300 บ. ด้วยความงก เราเลยเดินมาเส้นทางเดียวกับทางขึ้นว่านกูโหลว แต่มีป้ายเขียนว่า wenchang palace เดินเข้าทางแคบๆลัดเลาะมาเรื่อยๆ จะถึงจุดชมวิวตรงนี้เข้าฟรี แถมสูงและสวยไม่แพ้หว่านกูโหลวด้วย ด้านหลังก็มีเก๋งจีนโบราณให้เข้าไปถ่ายรูปได้ แถมทางขึ้นเต็มไปด้วยร้านคาเฟ่ที่เหมาะแก่การนั่งกินเบียร์ หรือ กินโกโก้ร้อนๆชมวิวก็ฟินไปอีกแบบ หลังจากที่เหนื่อยล้ามาทั้งวันก็ได้เวลาเดินกลับที่พัก ทั้งทริปของวันนี้ใช้พลังขาอย่างเดียวเลย

Leave a comment