ว่าด้วย ชุดน้ำเงินลายจุด ใน ข้างหลังภาพ เดอะมิวสิคัล

ชุดน้ำเงินลายจุด กลายเป็น Iconic ของฉากจำมิวสิคัลของรัชดาลัย
เพราะนับเวลาผ่านมากว่า 13 ปีแล้วคนก็ยังจำฉากนี้ได้ ขนาดคนไม่เคยดูก็จะเอาฉากนี้ไปเล่นอยู่เสมอ

.. ศรีบูรพา เขียนไว้ในนิยายว่า ที่ สถานีรถไฟโตเกียว นพพร ไปรับเจ้าคุณอธิการบดี เพื่อนของพ่อ และ เผลอไหว้ แย้ม ซึ่งเป็นคนรับใช้ก่อน ก่อนที่ มรว.กีรติ ภรรยา จะปรากฎตัว นั่นเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองได้พบกัน และ ชุดน้ำเงินมีลายจุด กลับมามีบทบาทอีกครั้งที่ท่าเรือ หลังจากที่นพพร กลับมาประเทศไทย คุณหญิงก็ใส่ชุดสีน้ำเงินลายจุด ไปรอรับที่ท่าเรือ แต่ตอนนั้นทั้งคู่ไม่ได้สนทนาอะไรกันมากมายนัก (เจ้าคุณอธิการสิ้นไปแล้วและนพพรเลิกรอความรักจากคุณหญิงไปแล้วในช่วงนั้นเพราะรอคำตอบอยู่นาน) แต่การสวมชุดน้ำเงินมีลายจุดในรอบหลังนี้ กีรติก็ต้องการบอกเป็นนัย ว่า ฉันยังเป็นคนเดิม

อะไรทำเธอให้มั่นใจ..รู้ว่าใครคือฉัน
ชุดน้ำเงินมีลายจุดต้นห้องว่าอย่างนั้น

ชุดน้ำเงินลายจุด

ในฉบับมิวสิคัล ฉาก ชุดน้ำเงินมีลายจุด ถูกเล่าตั้งแต่ต้นองก์1 นพพรวิ่งตามหาคุณหญิงที่พลัดหลง นวลที่เป็นต้นห้องบอกว่าหล่อนใส่ชุดสีน้ำเงินลายจุด…ในความโกลาหล ทุกตัวละครหยุดนิ่งและไฟฉาบลงมาที่คุณหญิงกีรติ เพื่อความโดดเด่น นพพรตะลึงงันแล้วเข้าไปทักทาย ทั้งสองโค้งคำนับ และพูดถึงความบังเอิญที่ใส่สีน้ำเงินเหมือนกัน ฉากนี้นพพรโดนสะกดในโฉมแรกที่ได้เห็นและคงเป็นหนึ่งในภาพที่จดจำไปตลอดของทั้งตัวละครและผู้ชมในตอนนั้น

#ชุดน้ำเงินมีลายจุด ใน องก์ 2 อาจไม่ค่อยมีคนรู้ ถ้าไม่ได้ดู อาจเพราะในองก์ 1 เพลงถูกอัดลง original cast recording แต่ในองก์ 2 ไม่มีและเล่าด้วยความรู้สึกล้วนๆ ถกลเกียรติ ก็ยังเก็บรายละเอียดของศรีบูรพา ด้วยการให้ หลังเจ้าคุณอธิการสิ้น กีรติกลับมาวาดภาพสีน้ำอีกครั้ง เธอสั่งให้นวลเตรียมชุดน้ำเงินลายจุดให้ พร้อมบอกว่า “ครั้งนี้ฉันขอใส่เองนะนวล” นั่นหมายถึงว่า นี่คือชีวิตที่เธอได้เลือกเองแล้ว

ชุดน้ำเงินลายจุด องก์2 ข้างหลังภาพ เดอะมิวสิคัล
ชุดน้ำเงินมีลายจุด องก์2 ท่าน้ำ ข้างหลังภาพ เดอะมิวสิคัล

…ที่ท่าเรือ คนมากมายมารอรับการกลับมาของนพพร ทำให้เขาแทบจะมองไม่เห็นกีรติ แสงไฟสาดส่องที่ ‘ปรี บูรณะวาด’ คู่หมั้นของนพพร และอีกดวงจับไปเล็กๆ จับไปที่กีรติที่ยืนโบกมือให้ข้างหลัง นพพรเลือกเดินจากไปเพราะมองไม่เห็นจนกระทั่ง ได้ยินเสียงกลุ่มผู้หญิงตะโกนแซวว่า คอนนิจิวะ จึงหันกลับไปมอง และพบ คุณหญิงกีรติในชุดน้ำเงินลายจุด ยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยว ทั้งสองไม่ได้พูดจาอะไรกัน สีหน้าของคุณหญิงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ฝืนยิ้มทั้งน้ำตาคลอ…

…ดนตรีบรรเลงเพลงธีมชุดน้ำเงินลายจุดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับบีบคนดูให้สงสาร กีรติเข้าไปอีก ก่อนจะเข้าสู่ฉากต่อไปที่จะเป็นโค้งสุดท้ายของโศกนาฎกรรมที่นำไปสู่อมตะประโยคตลอดกาลของโลกนิยายไทย

นวล ฉันสวยหรือยัง???? เพลงธีมของชุดน้ำเงินมีลายจุด ถูกบรรเลงขึ้นอีกครั้งในฉากท้ายเรื่อง เมื่อนพพร เปิดประตูเข้ามาเยี่ยมคุณหญิงกีรติที่กำลังนอนป่วยด้วยวัณโรคอยู่บนเตียง คุณหญิงยังงดงามเหมือนเดิม ด้วยเครื่องสำอางที่ฉาบใบหน้าที่ขอให้คนช่วยกันแต่งเติมให้ …ฉันจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดูสวยงดงามเพื่อต้อนรับมิตรของฉัน …และนี่ก็กลายเป็นฉากสุดท้ายของ ชุดน้ำเงินลายจุด อย่างแท้จริง เพราะในบทสนทนา ทำนองเพลงนี้ก็ยังถูกนำมาเปลี่ยนเนื้อให้เป็นเพลงสายเสียแล้ว ในฉากอำลาโลกของกีรติ

สิ่งที่ทำให้มองว่า ฉากนี้น่าจดจำในข้างหลังภาพ เดอะมิวสิคัล เพราะชุด(ตามรายละเอียดของนิยาย) จังหวะ ไฟ ดนตรี และ นักแสดง ถ่ายทอดและรวมเป็นอารมณ์เป็นหนึ่งเดียวอัดเป็นพลังส่งถึงคนดูในองก์แรก คนดูจะยิ้มไปกับการที่ทั้งคู่ได้เจอกัน แต่การเจอกันในหนสอง คนดูก็ต้องรู้สึกเห็นอกเห็นใจตัวละคร ….

ความหมายของชุดน้ำเงินมีลายจุดนี้ ศรีบูรพาไม่เคยบอก แต่ ภรรยาของศรีบูรพาเองมองว่าเป็นเพราะอยากให้มีความเชื่อมโยงกับชุดนักเรียนญี่ปุ่นของนพพรที่แต่งด้วยสีน้ำเงินเหมือนกัน เลยหยิบเรื่อใงกล้ตัวมาเขียน บางคนมองว่า อีกนัยหนึ่งมองว่าเป็นการแต่งกายแฟชั่นสมัยนิยมที่เพิ่งจะเปลี่ยนแปลงการปกครองไม่นาน

Leave a comment